• Thu. Sep 19th, 2024

BBL ไตรมาสแรกกำไร 10,129 ล้าน เพิ่ม 42.3% จากเศรษฐกิจฟื้น-ขึ้นดอกเบี้ย

0 0
Read Time:3 Minute, 12 Second

ธนาคารกรุงเทพ (BBL) รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ10,129.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.3% จาก 7,118.06 ล้านบาท ในไตรมาส 1ปี 2565

ในไตรมาส 1 ปี 2566 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการจ้างงานและการบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันการส่งออกเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวขึ้นบ้างจากที่หดตัวในช่วงก่อนหน้า

BBL กำไรสุทธิ 29,306 ล้านบาท เพิ่ม 10.6% รายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม 24.4% คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

KTB กำไรไตรมาสแรก 10,067 ล้าน พุ่ง 15% จากเศรษฐกิจฟื้น-ดอกเบี้ยขาขึ้น

ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ และสถานการณ์ปัญหาสถาบันการเงินในประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

ภายใต้ทิศทางภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน ธนาคารกรุงเทพยังคงดำเนินธุรกิจตามหลักความระมัดระวังรอบคอบ ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ธนาคารให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจตามแนวโน้มของสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวน 10,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2565 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสุทธิกับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากและการปรับอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าสู่ระดับเดิมที่ ร้อยละ 0.46 ต่อปี และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.84

สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็นร้อยละ 46.8 ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 8,474 ล้านบาท โดยพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า

ธนาคารกรุงเทพยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,640,090 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ ร้อยละ 1.6 จากสิ้นปี 2565 ส่วนใหญ่จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจและสินเชื่อลูกค้ากิจการต่างประเทศ สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมยังคงอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ที่ร้อยละ 3.1

ทั้งนี้ จากการที่ธนาคารยึดหลักการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 265.1

ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 จำนวน 3,205,989 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปี 2565 และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 82.3 ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 19.2 ร้อยละ 15.7 และร้อยละ 14.9 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %

By admin